บทความที่ 7: B5 กับ Door
บทเรียนนี้ ผู้เรียน จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ B5 หรือ ลมภายใน หรือ ชีพจร ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประตู หรือ Door ที่เปิดสู่ B5
B5 เป็นลมหายใจภายในกาย ที่มีความละเอียด ประณีต มีพิกัดตั้งอยู่บริเวณกลางก้อนสมอง
เมื่อเอ่ยถึงสมอง เราต่างรู้ดีว่า สมองนั้นทำงานหนักพอๆกับหัวใจ และอวัยวะที่สำคัญๆ ในระบบต่างๆของกายนี้
สมองมีที่ตั้ง และทำงานอยู่ใน กระโหลกศีรษะๆเป็นกระดูกที่มีผิวหนังห่อหุ้มอยู่ และมีเส้นผมงอกอยู่ทุกรูขุมขนของเส้นผมเต็มผิวหนังทั่วศีรษะ
ทําไมที่ กระโหลกศีรษะ จึงมี รูขุมขนของเส้นผมเต็มไปหมด?
คำตอบก็คือ เป็นเพราะว่า ณ จุดนี้ เป็นที่อยู่ของอวัยวะหนึ่ง ที่ชื่อว่า สมอง ซึ่งทำงานหนักตลอดเวลา จึงต้องมีระบบการระบาย และแลกเปลี่ยนอากาศภายในกับภายนอก ให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อน ไม่เย็นเกินไป ทำให้สมองสามารถทํางานประมวลผลให้ระบบกายทุกระบบ และมีระบบการสั่งการจากตรงนี้ เพื่อให้ระบบกายนั้น ทําหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และเต็มประสิทธิภาพ
สมอง จึงต้องดูแลตนเอง และถูกหล่อเลี้ยงดูแลเป็นอย่างดีพร้อมกับกายทั้งระบบ เช่น สารอาหาร หรือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ที่ลำเลียงโดยเส้นเลือดที่มีอยู่ทั่วไปในก้อนสมอง ทั้งเส้นเลือดขนาด เล็ก จนถึงขนาดใหญ่ โดยหัวใจ ที่คอยสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงก้อนสมอง ทำให้เส้นเลือดที่อยู่ในก้อนสมองมีการเคลื่อนไหว และมีการเต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับหัวใจเต้น จึงเกิดลมภายใน หรือ ชีพจร ในก้อนสมองนี้
ในโปรแกรม MRP จึงได้เลือกจุดปัจจุบัน ที่เรียกว่า ลมภายใน หรือ ชีพจรที่ตั้งอยู่บริเวณนี้มาหนึ่งจุด ที่เต้นอยู่ตรงกลางก้อนสมอง ให้ผู้เรียนได้นำมาใช้ในการฝึกเจริญสติ คือ B5 อันจะยังประโยชน์ให้ผู้เรียนมากมายเมื่อได้เข้าใจ และเข้าถึงทักษะการเจริญสติอันเกิดจากการสัมผัส B5 นี้ด้วยตนเอง
การเข้าไปสัมผัส B5 ต้องเคลื่อนจิตผ่านขึ้นลง เข้าออก ณ จุดปัจจุบันอีกจุดหนึ่งในรหัส B ที่เรียกว่า ประตู หรือ Door อันเป็นกระบวนการฝึกฝนการเจริญสติของโปรแกรม MRP ที่มีสโลแกนว่า “เข้าตามตรอกออกตามประตู”
Door และ B5 มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?
ในขณะที่สมองทำงานอยู่ ย่อมมีความร้อนเกิดขึ้น ก็จะถูกระบายออกไปตามรูขุมขนของเส้นผมที่อยู่รอบ ๆ ศีรษะ แล้วเมื่อเกิดการระบายอากาศ ย่อมมีความร้อนออกจากกายสู่อากาศภายนอก
ในขณะเดียวกัน เมื่ออากาศภายนอกร้อน หรือ เย็น ก็จะมีการถ่ายเทอากาศพร้อมอุณหภูมิ ผ่านรูขุมขนนี้เข้ามาในกระโลกศีรษะ และในที่สุด ก็มาสัมผัสกับก้อนสมอง
ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เดินผ่านแดดร้อน กายจะดูดซับความร้อน ความร้อนจากแสงแดดนั้นจะถูกส่งผ่านรูขุมขนของเส้นผม เข้าไปในกระโหลกศีรษะ แล้วไปกระทบกับ ก้อนสมองๆ ก็จะเกิดความร้อนขึ้นมา จึงทำการถ่ายเท หรือ การปรับตัว ด้วยการเกิดเหงื่อไหลออกมาตามรูขุมขนของเส้นผม
บางที เมื่อเดินเข้าไปในห้องเย็น หรือ นั่งในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าอุณหภูมิของกาย เมื่อนั้นสมองก็จะทำการปรับตัว ไม่ให้สมองรับความเย็นนั้นมากเกิน
จากตัวอย่างที่ยกมาอธิบายนี้ ให้ผู้เรียนสังเกตว่า ในขณะที่กายนั้นปรับตัวไม่ว่าจะถูกกระทบด้วยความร้อน หรือ ความเย็น จะมีการระบายอากาศ หรือ ปรับอุณหภูมิ ผ่านรูขุมขนของเส้นผมที่ตั้งอยู่ทั่วผิวหนังบนศีรษะ โดยเฉพาะบนกระหม่อมนี้อยู่ตลอดเวลา
ณ บริเวณผิวหนังบนกระหม่อมนี้ ให้ผู้เรียน เลือกรูขุมขนของเส้นผมตรงกลางกระหม่อมนี้มาหนึ่งจุด เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือเรียนรู้การเจริญสติด้วยโปรแกรม MRP ซึ่งในโปรแกรม MRP ได้ระบุจุดนี้เป็นหนึ่งในจุดปัจจุบันของรหัส B เรียกว่า ประตู หรือ Door
Door จึงเป็นประตูสู่ B5 B6 และ B7 หรือเรียกรวมกันว่า B ที่อยู่ในแนวดิ่ง
ดังนั้นเมื่อจะเคลื่อนจิตไปสัมผัส B5 ต้อง “เข้าตามตรอกออกตามประตู”
ทุกครั้งที่มาอยู่บนประตูนี้ ให้ผู้เรียนทำความรู้สึกถึง การเคลื่อนไหวของพลังงานธรรมชาติ ที่เดินทางผ่านประตู ขึ้นลง เมื่อสามารถสัมผัสรับรู้ถึง พลังงานธรรมชาติที่มีอุณหภูมิร้อนๆ อุ่นๆ หรือ เย็นๆ ผ่านประตูชัดเจนแล้วให้ประคองตนนิ่งๆอยู่ตรงประตูนี้สักครู่หนึ่ง แล้วจึงหย่อนจิตลงไปใต้ประตู คล้ายๆการโหนเชือกเอาตนหย่อนลงไปจากประตู ไปสู่ก้อนสมองเพื่อเข้าไปสัมผัส B5
ทบทวนความเข้าใจให้ตนเองอีกครั้งหนึ่งว่า B5 คือ ลมภายใน หรือ ชีพจรที่เต้นอยู่กลางก้อนสมอง
เมื่อใดที่สามารถพาตนมาสัมผัสจุดปัจจุบัน คือ B5 นี้ได้ เมื่อนั้นพลังแห่งสติของผู้เรียนจะเพิ่มขึ้นแบบสะสมต่อเนื่องจากเดิม และจิตจะมีความละเอียด ประณีต ยิ่งกว่าเดิมด้วย
ในกรณีที่สัมผัส B5 แล้วหลุด อย่าท้อ และอย่ามั่วเสียดาย ให้ถอยกลับไปตั้งหลักที่ประตู ไปอยู่กับ B4, B3, B2, และ B1 ตามลำดับ แล้วค่อยย้อนกลับไปใหม่
ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้เรียนสามารถสัมผัส B5 ได้อย่างเชี่ยวชาญ และเป็นธรรมชาติ ได้ในที่สุด
เมื่อใดที่สามารถสัมผัสรับรู้ชัดเจนถึง B5 นี้ได้ เมื่อนั้นพวกเราจะได้รับประโยชน์มากมายจากการตื่นรู้อยู่กับจุดปัจจุบันนี้ เช่น ปลอดจากการถูกรบกวนจากความคิด จินตนาการมากมาย อยู่เหนือความกังวลวิตกกังวล พ้นจากความฟุ้งซ่านทางความคิด ไม่มีความเครียด หรือ อาการผิดปกติใดๆที่เกิดขึ้นในสมอง ฯลฯ
เมื่อจิตสัมผัสรับรู้สิ่งใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นบริเวณรอบๆ B5 เราจะเรียกสิ่งนั้นว่า PP ซึ่งเป็นเรื่องของการทำงานประมวลผลของสมอง รวมทั้งการปรุงแต่งทางความคิด หรือ การพูดในจิต ของตนเองด้วย
หากสามารถสัมผัส B5 ได้อย่างชัดเจน เป็นธรรมชาติ จิตจะเกิดการพัฒนาตนเองไปเป็นจิตผู้ดูผู้มีอุเบกขา และมีความประนีต ละเอียด ในการตื่นรู้เป็นผู้มีสติเพิ่มขึ้น จากการอยู่กับปัจจุบันกับ B5 อย่างต่อเนื่องนี้
จิตผู้ดูที่มีความประณีตนี้ จะสามารถรู้เท่าทันเสียงกระซิบของมาร หรือ ตัณหา ที่ส่งเสียงในกระโหลกศีรษะ สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ อันเกิดแต่ตัณหาเหล่านั้นเป็นเพียง PP แล้วสามารถจำแนกได้ว่า เป็น PP+ หรือ PP- หรือ PP +/- ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จะเกิดการสร้างสมดุลชีวิตในทันทีด้วยการผสมสูตรรหัสแห่งสติ คือ O8+B5=PP (ความคิด จินตนาการ)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อจิตสามารถอยู่กับ B5 ได้อย่างมั่นคง และเข้มแข็ง จิตเป็นจิตปัจจุบันอยู่กับ B5 ชัดเจน ในขณะนั้นจะเห็นความคิดนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เยอะแยะมากมาย แต่ตนไม่เข้าไปร่วมเล่น ไม่เข้าไปจัดการ ปล่อยให้เป็นเรื่องการทำงานของกายในส่วนของสมองที่ประมวลผลอยู่ ซึ่งความคิดต่างๆเหล่านั้น จะแสดงออกมา เป็นจินตนาการที่เป็นภาพนิ่งบ้าง เป็นภาพเคลื่อนไหวบ้าง หรือบางทีก็แสดงออกมาเป็นข้อความ และเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ อดีต อนาคตทั้งนั้น
จิตจะเห็นเนั้นรื่องราวต่างๆเหล่านั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สามารถรับรู้ถึง เรื่องที่หนึ่งผ่านไป เรื่องที่สองมา ต่อด้วยเรื่องที่สาม เรื่องที่สี่ เรื่องที่ร้อย มีเรื่องราวเยอะแยะมากมายเต็มสมองไปหมด แต่ไม่ว่าจะมีความคิดมากมายปานใด ก็จะถูกจิตผู้ดูเห็น จนเห็นเรื่องราว หรือ ความคิดนั้นๆดับลง พอจิตเห็นความดับสนิทของเรื่องนั้นๆ ก็จะบังเกิดภูมิปัญญารู้แจ้ง ด้วยการเข้าใจในลักษณะธรรมชาติสามประการอย่างชัดเจน คือ ความไม่คงอยู่ถาวร ความไม่สมบูรณ์ และบังคับไม่ได้ ของสิ่งที่จิตเห็นความดับนั้น ทำให้จิตไม่ไปบังคับ หรือ ควบคุมการทำงานของสมอง ทำให้สมองไม่ทำงานหนักเกินหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนี้สมองจะมีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ของตนได้อย่างดี และอย่างเต็มศักยภาพด้วย