บทความที่ 5: B3
ก่อนหน้านี้เราได้เรียนรู้ลักษณะ และประโยชน์เกี่ยวกับ B1 และ B2 ซึ่งเป็นลมหายใจแบบบังคับ หรือ ลมภายนอก ที่ต้องอาศัยอากาศหายใจ แบบบังคับกายให้หายใจ คือ การบังคับตนเอง
ในยามที่ตกอยู่ในภาวะคับขัน เราได้ใช้ประโยชน์จาก B1 ควบคู่กับ O8
ส่วนในยามที่ตกอยู่ในภาวะที่ต้องต่อสู้เรื้อรัง และยาวนานจนเหนื่อยล้า เราก็กลับมาใช้ประโยชน์จาก B2 ควบคู่กับ O8
B1 และ B2 เป็นความร่วมมือกันระหว่าง เรากับกาย ซึ่งเป็นเรื่องของลมหายใจภายนอก หรือ อากาศในการหายใจที่กายสูดเข้ามาตามระบบการหายใจของกายโดยการบังคับ
ด้วยเหตุนี้ เรากับกายต้องร่วมมือกันอย่างดี เพื่อความตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันในการดำรงชีวิตประจำวัน ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวของมาร หรือ ตัณหา ที่ PP
ในหลายเหตุการณ์ เราได้ผ่านพ้นวิกฤต ในยามที่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของมารที่ PP ด้วยการใช้ประโยชน์จากสูตร 2 สูตร คือ O8+B1 และ O8+B2 แล้วสามารถผ่านเหตุการณ์ที่ขับขัน และผ่านเหตุการณ์ที่ยืดเยื้อ เรื้อรัง นั้นอย่างอัศจรรย์
หลังจากที่เราผ่านเหตุการณ์ขับขันมาได้ด้วย O8+B1 เราได้เจริญสติต่อเนื่องด้วยการเปลี่ยน การสัมผัสจุดปัจจุบันจาก B1 มา เป็น B2 ทำให้เราและกาย รู้สึกดีและผ่อนคลาย สบาย
เมื่อเรารู้สึกดี มีความสดชื่น เราก็ปล่อยให้กายหายใจเองตามธรรมชาติ โดยที่เรายังอยู่ที่จุดสัมผัสเดิมในโพรงจมูก อันเป็นจุดสัมผัสเดียวกันกับ B1 และ B2
การที่เรารู้สึกถึงลมหายใจธรรมชาติที่ไม่มีการบังคับลม แต่รู้สึกถึงลมที่กายนั้นหายใจเข้าออกเองตามธรรมชาติ ลมหายใจนี้ เรียกว่า B3
B3 คือ ลมหายใจธรรมชาติ ตั้งอยู่ในโพรงจมูก
เมื่อเราสามามารถประคองตนอยู่กับตัวชี้วัดการอยู่กับปัจจุบันของตนเอง ด้วยการอยู่กับ B3 ได้ชัดเจนแล้ว ให้เราพาตนเองเคลื่อนไป สัมผัสพลังจิตของตนเองที่ O8 เพื่อสะสมพลังแห่งสติให้ต่อเนื่อง
หากเราเฝ้าสังเกต B3 ด้วยการสัมผัสรับรู้อยู่ ณ ที่ตั้งของเค้า หรือ ในยามที่เราอยู่ที่ฐานจิตผู้ดู O8 ก็ตาม เราจะสามารถเห็นธรรมชาติการหายใจของ B3 สามลักษณะ คือ 1.)แผ่วเบา 2.)ถี่รัวถี่เร็ว 3.)หนักหน่วง
ในยามที่เราสัมผัส B3 แบบแผ่วเบา อย่างต่อเนื่องเราจะรู้สึกเพลิดเพลิน และสบายไปกับความรู้สึกนั้น
บางทีในยามที่เราสัมผัส B3 แบบถี่รัวถี่เร็ว อย่างต่อเนื่อง เราจะรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจไปกับความรู้สึกนั้น
และบางครั้งในยามที่เราสัมผัส B3 แบบหนักหน่วง อย่างต่อเนื่อง เราจะรู้สึกอึดอัด และไม่ค่อยสบายไปกับความรู้สึกนั้น
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการสัมผัส B3 ดังกล่าวนั้นไม่คงอยู่ถาวร ไม่สมบูรณ์ และบังคับไม่ได้ บางทีก็ปรากฏเพียงลักษณะเดียว บางทีก็ปรากฏสองลักษณะบ้าง สามลักษณะบ้าง หรือบางทีก็ปรากฏสลับไปมา ตามธรรมชาติที่เค้าเป็น หรือแสดงออกมา
เราจะได้รับประโยชน์จาก B3 เป็นอย่างมากในการดำรงชีวิตปกติประจำวัน หรือ ในยามที่เราอยู่กับกายที่นั่งหลับตาคู้บัลลังก์ หรือ นั่งหย่อนขาอยู่ที่ห้องรับแขก นั่งบนเก้าอี้ หรือ อยู่ในที่ที่เป็นธรรมชาติ หรือ อยู่กับกายที่กำลังทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามในชีวิตประจำวัน แล้วเราสามารถเจริญสติ มีความตื่นรู้อยู่กับ B3 แบบสบายๆ ด้วยการสังเกตเห็นลักษณะของการหายใจของกายทั้งสามลักษณะ คือ แผ่วเบา ถี่รัวถี่เร็ว หนักหน่วง
และเราจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งทันทีที่เราเห็น B3 นั้นดับลง นั่นคือ การเห็นแจ้ง B3 แสดงธรรมชาติ 3 ประการ อย่างชัดเจน คือ ความไม่คงอยู่ถาวรความไม่สมบูรณ์ และการบังคับไม่ได้ ของ B3
ณ ปัจจุบันขณะนั้น เราจะบังเกิดเป็นจิตผู้ดู ผู้มีภูมิปัญญารู้แจ้งในวิปัสสนาญาน ขึ้นมาทันที ด้วยการเห็น B3 ดับ ในลักษณะอันใดอันหนึ่ง หนึ่งในสามลักษณะ คือ เห็น B3 ที่แผ่วเบาๆแล้วดับ หรือ เห็น B3 ที่ถี่รัวถี่เร็วๆ แล้วดับ หรือ เห็นB3 ที่หนักหน่วงๆแล้วดับ
เราสามารถใช้สูตร O8+B3=PP เพื่อสร้างสมดุลชีวิตได้ด้วย
ในขณะที่ดำรงชีวิตประจำวันให้เราเฝ้าสังเกตดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นว่าอะไรที่เป็น PP ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น หรือ มี PP ใดปรากฏให้เราเห็นอย่างปัจจุบันทันที เช่น อาการกายที่กำลังเคลิ้ม และ ง่วง แล้วก็ สัปหงก เมื่อนั้นให้เราจับอาการกายที่ศีรษะสัปหงก ได้สัปหงก ในขณะที่ B3 หายใจเข้า หรือ หายใจออก ซึ่งหากทำได้เช่นนี้เราจะสามารถเห็น PP เคลิ้มและง่วงของกายนั้นดับทันที การได้เห็น PP ดับอย่างชัดเจนนี้ แสดงถึง ภูมิปัญญารู้แจ้งได้เกิดขึ้นกับเราแล้ว
บางครั้งในขณะที่ดำรงชีวิตปกติ อาจจะมีเสียงดังเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันที ทำให้เราและกาย เกิดอาการสะดุ้ง ตกใจ หากเป็นเช่นนี้ให้เราจับเสียงที่ปรากฏนั้นว่า เสียงนั้นดัง ในขณะที่ B3 หายใจเข้าหรือหายใจออก หากเราสามารถเห็นเสียงดังนั้นดับลงพร้อมกับ B3 ได้อย่างชัดเจนนี้ ได้แสดงถึง ภูมิปัญญารู้แจ้งได้เกิดขึ้นกับเราแล้ว
ในชีวิตประจำวัน อาจมีเหตุการณ์อื่นๆเกิดขึ้นฉับพลันทันที เช่น ขณะขับรถยนต์อยู่แล้วมีรถคันอื่นปาดหน้า หรือ กำลังอ่านหนังสืออยู่ แต่มีคนมาเรียกชื่อ หรือ ขับ รถยนต์ เพลินๆ อยู่ แล้ว มีคนกดแตร ฯลฯ ให้เรารับมือกับเหตุการณ์นั้นในรูปแบบเดียวกันกับการยกตัวอย่างก่อนหน้านี้
ให้ใช้สูตร O8+B3=PP (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน) ประกอบการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อการตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน และสะสมบ่มเพาะภูมิปัญญารู้แจ้ง
ให้เกิดขึ้นกับตนอยู่เสมอๆ
หลังจากนั้นเราก็จะรู้สึกได้ว่า เราสามารถสร้างสมดุลชีวิตประจำวัน ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถรับมือกับ PP เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย สบายๆ
การสะสมประสบการณ์ในการเห็นความดับของ PP เหล่านี้ จากการใช้สูตร O8+B3=P(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน)นี้ จะทำให้เราเข้าใจและเข้าถึง วิปัสสนาญาณ อันจะทำให้เราสามารถ เป็นจิตผู้ดูผู้มีอุเบกขา และ…
ปล่อยวางความถือมั่นทั้งปวง ในชีวิตได้ ในที่สุด